997 จำนวนผู้เข้าชม |
ปี 2022 สถานการณ์โควิดก็ยังไม่ดีขึ้นเท่าไหร่ ทำให้เรายังต้องทำงานหรือเรียนหนังสือผ่านช่องทางออนไลน์อยู่ หลาย ๆ คนจึงกำลังมองหาโน๊ตบุ๊คสักเครื่องมาใช้ ไปเดินห้างดูก็เห็นมีตั้งวางขายกันหลายสิบแบบ ถ้าหาในเน็ตยิ่งมีเป็นร้อย จึงไม่รู้ว่าจะเลือกแบบไหนดี ยิ่งตอนนี้สายการผลิตโน๊ตบุ๊คกำลังเจอกับปัญหาการขาดแคลนชิ้นส่วนสำคัญบางอย่าง จากที่ปรกติที่แพงอยู่แล้ว (เป็นหลักหมื่นขึ้นไป) ราคาโน๊ตบุ๊คมันยิ่งแพงขึ้นไปอีก ถ้าควักกระเป๋าจ่ายเงินซื้อมาแล้วไม่ถูกใจ จะซื้อเครื่องใหม่มันก็ไม่ง่าย พวกเราจึงอยากมาแชร์ถึงการ “เลือกโน๊ตบุ๊ค อย่างไรให้ถูกใจ ในปี 2022”ปี 2022 สถานการณ์โควิดก็ยังไม่ดีขึ้นเท่าไหร่ ทำให้เรายังต้องทำงานหรือเรียนหนังสือผ่านช่องทางออนไลน์อยู่ หลาย ๆ คนจึงกำลังมองหาโน๊ตบุ๊คสักเครื่องมาใช้ ไปเดินห้างดูก็เห็นมีตั้งวางขายกันหลายสิบแบบ ถ้าหาในเน็ตยิ่งมีเป็นร้อย จึงไม่รู้ว่าจะเลือกแบบไหนดี ยิ่งตอนนี้สายการผลิตโน๊ตบุ๊คกำลังเจอกับปัญหาการขาดแคลนชิ้นส่วนสำคัญบางอย่าง จากที่ปรกติที่แพงอยู่แล้ว (เป็นหลักหมื่นขึ้นไป) ราคาโน๊ตบุ๊คมันยิ่งแพงขึ้นไปอีก ถ้าควักกระเป๋าจ่ายเงินซื้อมาแล้วไม่ถูกใจ จะซื้อเครื่องใหม่มันก็ไม่ง่าย พวกเราจึงอยากมาแชร์ถึงการ “เลือกโน๊ตบุ๊ค อย่างไรให้ถูกใจ ในปี 2022”
สิ่งที่เราควรรู้
ก่อนเลือกซื้อโน๊ตบุ๊คหนึ่งเครื่องประกอบด้วยรายละเอียดหลาย ๆ อย่าง เรามาลองดูกันก่อนนะครับว่า มีอะไรบ้างที่เราควรจะรู้
ก่อนที่จะเลือกซื้อโน๊ตบุ๊คสักเครื่องขนาด น้ำหนัก รูปทรงภายนอก : นี้เป็นสิ่งที่เรามองเห็นได้ง่ายที่สุด โน๊ตบุ๊คแต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อก็จะมีขนาด น้ำหนักและรูปทรงรวมถึงวัสดุที่ไม่เหมือนกัน บางรุ่นเน้นการออกแบบที่บางเบาเพื่อให้เราสามารถพกพาได้สะดวก
แต่บางรุ่นที่มีประสิทธิภาพสูงก็จะมีขนาดที่ใหญ่ขึ้นมีน้ำหนักเยอะเพราะต้องติดตั้งแบตเตอรี่ความจุสูง ระบบระบายความร้อนที่มีขนาดใหญ่และอื่น ๆ เข้าไปด้วยหน้าจอ : มี 3 อย่างที่ควรเลือกให้เป็น
อย่างแรกคือความเที่ยงตรงของสี ยิ่งเที่ยงตรงสูงก็จะราคาสูง มาตรฐานที่สามารถหาได้ทั่วไปคือ sRGB (Standard Red Green Blue) กับ NTSC (The National Television System Committee)
สองคือความละเอียด (Resolution) ในปี 2022 อย่างต่ำต้อง 1080p (Full HD) นะครับ
ต่อไปเป็นขนาดหน้าจอ ทั่วไปก็จะมี 3 ขนาด 14 , 15.6 และ 17.3 นอกจากนั้นก็จะเป็นประเภทของจอหรือระดับความสว่างรวมถึงความถี่ (Refresh Rate) ที่สามารถปรับได้ ซึ่งแต่ละรุ่นก็จะคล้าย ๆ กันครับคีย์บอร์ด : ทั่วไปจะมี 2 อย่างให้เราเลือก อย่างแรกคือขนาด จะเป็นแบบ Full-Size (มีแป้นพิมพ์ตัวเลข) หรือแบบธรรมดา อีกอย่างคือมีไฟ LED หรือไม่มี นอกนั้นก็จะเป็นเรื่องของลักษณะ
ความสะดวกในการพิมพ์ซึ่งเป็นสิ่งที่แต่ละคนชอบไม่เหมือนกัน ก่อนซื้อเราควรไปลองพิมพ์เล่นก่อนครับพอร์ตการเชื่อมต่อ : มันคือรูต่าง ๆ ที่เราใช้เสียบเพื่อเชื่อมต่อไปยังอุปกรณ์อื่น ๆ ในปี 2022
พอร์ตพื้นฐานที่เขาให้มาจะเป็นรุ่นใหม่ (USB 3.0 ขึ้นไปอยู่แล้ว) ไม่ว่าจะเป็น Type A , Type C , Thunderbolt (คล้าย USB Type C) ,
ช่องเสียบหูฟัง 3.5 mm และ HDMI นอกจากนั้นบางรุ่นอาจมีช่องเสียบการ์ดสำหรับกล้องถ่ายรูป (SD Card) หรือช่องเสียบสายเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต (LAN) มาให้ แต่ตำแหน่งของมันจะไม่เหมือนกัน ลองเลือกดูนะครับว่าชอบแบบไหน
CPU (Central Processing Unit) : มันคือสมองของโน๊ตบุ๊ค เปรียบเหมือนสมองฝั่งซ้ายของคนเรา ไว้ใช้เกี่ยวกับการคำนวณ ยิ่งสมองดีมันยิ่งทำให้โน๊ตบุ๊คเราเร็ว เวลาเราไปซื้อเขาจะให้เราเลือก 2 อย่าง อย่างแรกเป็นยี่ห้อซึ่งมีแค่ Intel กับ AMD ซึ่งในปี 2022 คุณภาพทั้งสองยี่ห้อนี้ก็พอ ๆ กันครับ แต่ที่สำคัญคือรุ่น ถ้า Intel จะเป็น i3 , i5 , i7 , i9 ส่วน AMD คือ ryzen 3 , ryzen 5 , ryzen 7 , ryzen 9 ดูยังไง ง่าย ๆ ครับตัวเลขยิ่งสูงคือยิ่งแรง ราคาก็แรงตามตัวเลขเหมือนกัน
GPU (Graphics Processing unit) : หรือที่เราเรียกว่าการ์ดจอ ถ้า CPU เปรียบเหมือนสมองฝั่งซ้าย GPU มันก็คือสมองฝั่งขวาที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการสร้างสรรค์ ศีลปะ คือยิ่ง GPU แรงเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำงานเกี่ยวกับการแต่งภาพ กราฟฟิก (Graphics) หรือตัดต่อวีดีโอได้ดี และมันยังสำคัญต่อการเล่นเกมส์อีกด้วย ถ้า GPU ไม่ดีเล่นเกมส์ไม่ได้นะครับ ในปี 2022 เราซื้อโน๊ตบุ๊คมันก็จะมี GPU Onboard (Integrated graphics) มาให้ ถ้าไม่พอกับการใช้งาน เราก็ต้องเลือกซื้อตัวที่มีการ์ดจอแยก โดยวิธีเลือกหลัก ๆ มี 2 อย่าง
หนึ่งคือเทคโนโลยีซึ่งมี 2 ยี่ห้อคือ NVIDIA และ AMD ซึ่งมีความแรงพอ ๆ กัน แต่เทคโนโลยีของ NVIDIA จะใหม่กว่า ซึ่งราคาก็จะสูงกว่าเช่นกันStorage : คือตัวจัดเก็บข้อมูล ซึ่งจะมี 2 แบบ แบบแรกคือ HDD (Hard Disk Drive) ซึ่งช้าเพราะเป็นเทคโนโลยีเก่าแต่มีราคาที่ถูกกว่า ส่วนอีกแบบคือ SSD (Solid State Drive ) ซึ่งเร็วกว่าและแนะนำให้เลือกแบบนี้เพราะมันจะทำให้เราไม่เสียอารมณ์กับการใช้โน๊ตบุ๊ค โดยความจุน้อยสุดตอนนี้เริ่มที่ 256 GB RAM
(Random Access Memory) : มันคือที่พักข้อมูลก่อนส่งให้สมองไปใช้ เหมือนเราทำแกงหม้อใหญ่ ตอนจะกินเราต้องตักแบ่งใส่ถ้วยเล็ก ๆ ก่อนแล้วตักกินจากถ้วยนั้น เช่นกัน เรามีที่เก็บข้อมูล (Storage) แต่เวลาจะใช้เราต้องเอาข้อมูลมาพักไว้ที่ Ram ก่อน ถ้า Ram ช้าหรือความจุน้อยก็จะทำให้โน๊ตบุ๊คเราช้าไปด้วยครับ ในปี 2022 ส่วนใหญ่จะเริ่มที่ 8 GB ถ้าจะใช้เล่นเกมส์หรือทำหลาย ๆ งานพร้อมกันควรเลือก Ram อย่างน้อยที่ 16 GB นะครับ
สิ่งเหล่านี้เป็นพื้นฐานในการเลือกซื้อโน๊ตบุ๊ค ซึ่งแต่ละอย่างที่เราเลือกจะส่งผลต่อราคาของมัน โดยบางรุ่นบางยี่ห้อไม่ใช่ต่างกันแค่หลักร้อยหลักพัน แต่แพงกว่ากันมาก ถ้าเรามีงบไม่จำกัดอยากซื้อแบบไหนก็ตามสบายครับ แต่ถ้างบของเรามีจำกัดก็ควรต้องเลือกที่เหมาะกับเรา ดังนั้นก่อนที่จะซื้อเราควรคิดก่อนว่าจะเอามาทำอะไรและขอให้ตั้งงบประมาณขึ้นมาด้วยนะครับ เพราะโน๊ตบุ๊คแต่ละระดับก็ไม่เหมือนกันทั้งประสิทธิภาพและราคาระดับต้น เอามาทำงานเอกสารทั่วไป ดูหนัง ฟังเพลง เรียนออนไลน์ ประชุมซูม แค่ CPU i3 หรือ Ryzen 3 , Ram 4 SSD 256 แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว ราคาไม่เกิน 15,000 บาทระดับกลาง เอามาทำงานเอกสาร ตัดต่อวีดีโอทั่วไป เล่นเกมส์ระดับกลางได้ ใช้ CPU i5 หรือ Ryzen 5 , GPU Nvidia GTX 1650 Ram 8 SSD 512 ราคาไม่เกิน 25,000 บาทระดับสูง เอามาทำงานหนัก ๆ งานกราฟฟิก ตัดต่อวีดีโอมืออาชีพ เล่นเกมส์ระดับ AAA ได้ แบบนี้ต้องจัดงบประมาณขั้นต่ำ 35,000 บาทขึ้นไปครับ ซึ่งถ้าจะเลือกแบบนี้ขอให้หาข้อมูลเพิ่มเติมอีกเยอะ ๆ ทั้งหน้าจอ ทั้งระบบระบายความร้อน และยังมีอีกหลายอย่างที่เราต้องศึกษาเพิ่มก่อนตัดสินใจ
สรุป สิ่งที่เราแนะนำทั้งหมดนี้เป็นเพียงพื้นฐานเท่านั้น ถ้าเราจะเลือกซื้อมาทำงานทั่วไป ดูหนังฟังเพลง ข้อมูลจากบทความนี้ก็เพียงพอในระดับนึง แต่ถ้าเราอยากเอามาทำงานหนัก ๆ ตัดต่อหรือเอามาเล่นเกมส์ด้วย แบบนี้ราคามันก็จะเริ่มสูงขึ้น เราก็ควรจะหาข้อมูลประกอบเพิ่มเติมอีกนะครับ พวกเราก็หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ทุกท่านจะสามารถเลือกซื้อโน๊ตบุ๊คได้ถูกใจตามที่ทุกท่านต้องการนะครับ ขอบคุณครับ